ตัดถุงใต้ตาแผลใน (Transconjunctival Lower Blepharoplasty) ทางเลือกศัลยกรรมที่ช่วยให้ตาดูสดใสขึ้นแบบไม่มีรอยแผล
ปัญหาถุงใต้ตานูนหรือไขมันสะสมใต้ตาเป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า แก่กว่าวัย และอาจส่งผลต่อความมั่นใจของหลายคน การตัดถุงใต้ตาแผลใน (Transconjunctival Lower Blepharoplasty) เป็นเทคนิคที่ช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่มีรอยแผลภายนอกให้สังเกตเห็น ในปัจจุบะนกลุ่มคนอายุน้อยานใจเข้ารับการผ่าตัดใต้ตามากขึ้น ซึ่งข้อดีของการผ่าตัดเทียบกับการฉีดสารเติมเต็มคือ ไม่มีภาวะแทรกซ้อนที่สารเติมเต็มไปอุดตันเส้นเลือดหรือเกิดเป็นก้อนนูนผิดรูปเวลายิ้ม และการผ่าตัดให้ผลการรักษาระยะยาว ในบทความนี้เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการตัดถุงใต้ตาแผลใน เหมาะกับใคร ข้อดี และวิธีดูแลหลังทำศัลยกรรม
ตัดถุงใต้ตาแผลใน คืออะไร
ตัดถุงใต้ตาแผลใน หรือ Transconjunctival Blepharoplasty เป็นเทคนิคศัลยกรรมที่ช่วยกำจัดไขมันสะสมใต้ตาผ่านแผลด้านในของเปลือกตาล่าง โดยไม่มีแผลภายนอกให้สังเกตเห็น ซึ่งช่วยให้ดวงตาดูสดใสขึ้นและใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง แพทย์จะทำการกรีดแผลเล็ก ๆ บริเวณเยื่อบุตาด้านใน จากนั้นนำไขมันส่วนเกินออกหรือจัดเรียงใหม่เพื่อให้ใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น
ใครที่เหมาะกับการตัดถุงใต้ตาแผลใน
- คนที่มีไขมันสะสมใต้ตา แต่ผิวหนังไม่หย่อนคล้อยมาก
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขถุงใต้ตาโดยไม่ต้องการให้มีรอยแผลด้านนอก
- คนที่ไม่ต้องการให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า หรือดูแก่กว่าวัย
- ผู้ที่เคยลองใช้ครีมหรือหัตถการอื่นแล้วไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
หากมีปัญหาถุงใต้ตาพร้อมกับผิวหนังหย่อนคล้อยมาก แพทย์อาจแนะนำให้ทำตัดถุงใต้ตาแผลนอก หรือทำร่วมกับการยกกระชับใต้ตา (Lower Eyelid Lift) เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
ข้อดีของการตัดถุงใต้ตาแผลใน
- ไม่มีรอยแผลเป็นด้านนอก แผลถูกซ่อนไว้ด้านในเปลือกตา ทำให้ไม่มีรอยเย็บที่สังเกตเห็นได้
- ลดอาการบวมช้ำ ฟื้นตัวเร็ว เพราะไม่มีการกรีดผิวด้านนอกของใบหน้า
- ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ดวงตาดูสดใสขึ้นโดยไม่ทำให้ตาดูแข็งหรือตึงเกินไป
- แก้ไขไขมันใต้ตาได้ถาวร ไม่ต้องพึ่งการฉีดสารเติมเต็มหรือเลเซอร์ซ้ำบ่อย ๆ
ขั้นตอนการตัดถุงใต้ตาแผลใน
1. ปรึกษาศัลยแพทย์ แพทย์จะวิเคราะห์ปัญหาใต้ตาของคุณ และวางแผนการผ่าตัด
2. วางยาชาหรือยาสลบ เพื่อให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บขณะผ่าตัด
3. กรีดแผลด้านในเปลือกตาล่าง ใช้อุปกรณ์พิเศษเพื่อเปิดแผลเล็ก ๆ ที่เยื่อบุตาด้านใน
4. นำไขมันใต้ตาออกหรือจัดเรียงใหม่ เพื่อให้ใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น
5. ปิดแผลโดยไม่ต้องเย็บ แผลจะสมานตัวเองตามธรรมชาติ
6. พักฟื้นและดูแลหลังผ่าตัด ใช้เวลาฟื้นตัวประมาณ 7-10 วัน
วิธีดูแลตัวเองหลังตัดถุงใต้ตาแผลใน
- ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
- หลีกเลี่ยงการขยี้ตาหรือใช้คอนแทคเลนส์ในช่วงแรก
- นอนยกศีรษะสูงเพื่อลดอาการบวม
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจ้า และใส่แว่นกันแดดเมื่อต้องออกไปข้างนอก
- ใช้ยาหยอดตาหรือยาปฏิชีวนะตามที่แพทย์แนะนำ
เปรียบเทียบ ตัดถุงใต้ตาแผลใน vs ตัดถุงใต้ตาแผลนอก
| ปัจจัย | ตัดถุงใต้ตาแผลใน | ตัดถุงใต้ตาแผลนอก |
| รอบแผล | ไม่มีแผลภายนอก | มีแผลใต้แนวขนตาล่าง |
| อาการบวมช้ำ | น้อยกว่า | อาจมีมากกว่า |
| ฟื้นตัวเร็ว | ประมาณ 7-10 วัน | ประมาณ 10-14 วัน |
| เหมาะกับใคร | คนที่มีถุงใต้ตาแต่ผิวไม่หย่อนคล้อยมาก | คนที่มีถุงใต้ตาและผิวหนังหย่อนร่วมด้วย |
| ผลลัพธ์ | ดวงตาดูสดใสขึ้น ใต้ตาเรียบเนียน | ปรับโครงสร้างใต้ตาพร้อมดึงกระชับผิว |
ตัดถุงใต้ตาแผลในอยู่ได้นานแค่ไหน
ผลลัพธ์ของการตัดถุงใต้ตาแผลในสามารถอยู่ได้นานหลายปี โดยขึ้นอยู่กับ- อายุและสภาพผิวของแต่ละคน
- การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด
- พันธุกรรมและการดูแลตัวเอง เช่น การพักผ่อนที่เพียงพอและการหลีกเลี่ยงแสงแดด
หากต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานขึ้น อาจทำร่วมกับเลเซอร์กระชับผิวใต้ตา หรือเติมไขมันใต้ตา เพื่อให้ผลลัพธ์ดูสมบูรณ์แบบมากขึ้น
สรุป: ตัดถุงใต้ตาแผลในเหมาะกับใคร
- คนที่มีไขมันใต้ตาสะสม แต่ไม่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก
- คนที่ต้องการแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาแบบไม่มีรอยแผลภายนอก
- คนที่ต้องการให้ดวงตาดูสดใสขึ้น และใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
สามารถติดตามชมสาระดี ๆ และรีวิวสวย ๆ ได้ที่ ALINE Clinic by หมอภูวิช อลีนคลินิก ศัลยกรรมตกแต่ง โคราช หรือหากต้องการการพูดคุยหรือปรึกษากับคุณหมอภูวิชก่อนทำศัลยกรรม สามารถติดต่อผ่านทาง LINE OA : @alineclinic ได้เลยนะคะ
